ฉลอง 55 ปี คณะสมาชิกนักบุญวินเซน เดอ ปอล วัดนักบุญฟรังซีส เซเวียร์ สามเสน พิธีมิสซาบูชาคุณพระเจ้า โดยคุณพ่อประทีป กีรติพงศ์ เวลา 10.00 น. ณ วัดนักบุญฟรังซีสเซเวียร์ สามเสน จัดนิทรรศการและจำหน่ายดอกไม้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2008
สารจากประธาน คณะมนตรีอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ
สวัสดี เพื่อนพี่น้องวินเซน เดอ ปอล อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ พบกันใหม่อีกครั้ง กับการทบทวนภาพ กิจกรรมที่ทำร่วมกันมา พี่น้องคิดว่ามันน้อยไปหรือไม่ กับเวลาที่พระให้เรามาอย่างมากมาย เพราะเราเพิ่งมี กิจกรรมรวมทั้งคณะเพียง 2 ครั้ง 2 ไตรมาศของปี 2008 แต่เรายังมีงานมากมาย ที่น่าทำถวายแด่พระเป็นเจ้าในปี นักบุญเปาโล (2008) และช่วงปีพระวาจา (2007-2009) ถึงแม้พี่น้องชาววินเซนฯ จะต้องประชุมและช่วยเหลือ -เยี่ยมเยียนทุกสัปดาห์ ซึ่งดูเป็นงานมาก (ตามประสา มนุษย์) อยู่แล้ว แต่เวลาเป็นของพระ พวกเราคงต้องแบ่ง คืนกลับไปอย่างยุติธรรม เดือนกันยายนนี้ เรามีกิจกรรม เลี้ยงเด็กที่ศูนย์ น.มาร์ติน วัดแม่พระมหาการุณย์ และ ฉอลงนักบุญวินเซน เดอ ปอล พร้อมกับครอบครัว Famvin วันที่ 20 กันยายน 2008 และร่วมฉลองศาสนนาม พระคาร์ดินัล วันที่ 27 กันยายน 2008 อย่าลืมจัดเวลา เพื่องานนี้นะคะ ส่วนงานอื่นอีกมากมาย เราคงต้องช่วยกัน คิดช่วยกันทำเวลาที่เรามาประชุมร่วมกัน พบกันใหม่ใน ฉบับหน้า นะคะ
รักและเคารพเพื่อนพี่น้องทุกท่าน
แสงเดือน โพธิ์ไทร
55 ปี คณะวินเซนฯ สามเสน (พ.ศ. 2496-2551)
สมาคมนักบุญวินเซน เดอ ปอล จัดตั้งขึ้นในประเทศ ไทย โดยการนำของคุณพ่อมอริส ยอลี ในปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) วัตถุประสงค์เพื่อบำเพ็ญเมตตจิตช่วยผู้ยากไร้ ทางกายและใจ
เริ่มแรกทดลองปฏิบัติจนถึงขั้นดำเนินการ ได้จัดตั้ง คณะสมาชิกฯ แรกขึ้นที่โรงเรียนสหพาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2490 โดยคุณพ่อเป็นจิตตาธิการ และ ม.มานิต บุญคั้นผล เป็นประธาน คณะสมาชิกฯ ได้จดทะเบียนเป็น สมาคมฯ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2491 ปัจจุบันสมาคมฯ มีคณะสมาชิกฯ 125 คณะ 10 สังฆมณฑล ใน 46 จังหวัด มีสมาชิก 820 คนทั่วประเทศ
คณะกรรมการสมาคมฯ เห็นว่าน่าจะขยายไปตั้งตาม วัดได้ จึงตั้งเป้าหมายให้วัดนักบุญฟรังซีส เซเวียร์ สามเสน เป็นคณะสมาชิกฯ แรกที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2496 โดยคุณพ่อ ยบ. ตาปี อดีตเจ้าวัดนักบุญฟรังซีส เซเวียร์ สามเสน (ค.ศ. 1926-1969) เป็นจิตตาธิการ และ บ.ทิวา บุณยะวณิช เป็น ประธานคณะสมาชิกฯ
ปัญหาหลักการจัดตั้ง คือ การหาเงินมาช่วยเหลือคน ยากจนและสถานที่ทำการ พวกเราจึงต้องสวดขอพระช่วย ด้วยความวางใจในพระทัยดีขององค์พระเยซูเจ้าที่ทรง ตรัสว่า “จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ” และยังมีคำของอัคร เทวดาคาเบรียลที่แจ้งแม่พระว่า “ไม่มีอะไรที่พระเป็นเจ้า ทรงกระทำไม่ได้”
ระยะแรก คณะสมาชิกฯ อาศัยมุมหนึ่งของโรงเรียน โยนออฟอาร์คเป็นที่ประชุม และเมื่ออาคารโรงเรียนต้อง สร้างอาคารโรงเรียนใหม่เพื่อขยายการศึกษา จึงเหลือ เนื้อที่เล็กน้อย คณะสมาชิกฯ จึงขอใช้พื้นที่นี้สร้างที่ทำ การของสมาคมฯ คุณพ่ออนุมัติโดยมีข้อแม้ว่า หากเลิก กิจการทางคณะสมาชิกฯ ต้องมอบคืนให้วัด เพื่อทำ ประโยชน์ตามที่ทางวัดจะเห็นสมควร
ปัญหาคือต้องหาเงินสร้างอาคาร ซึ่งความเห็นของ สมาชิกฯ ขณะนั้นคือ การรณรงค์หาเงินเพื่อสร้างอาคาร คณะสมาชิกฯ จึงวางโครงการหาเงินโดย
1. ขอคุณพ่อละออ สังขรัตน์ พ่อปลัดในขณะนั้น ช่วยประเดิมฉายภาพยนตร์ และประชาสัมพันธ์ตามวัตถุ ประสงค์ของสมาคมฯ
บ.พงษ์ศักดิ์ และ บ.วีรพันธุ์ ถ่ายภาพร่วมกับ คุณครูแววตา ผู้สนับสนุนดอกไม้จัดหาทุน ฉลอง 55 ปี คณะวินเซน สามเสน เมื่อวันที่ 24 กย.2008
2. ขอความร่วมมือโรงเรียนต่างๆ คือ โรงเรียน นักบุญโยนออฟอาร์ค โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียน เซนต์ฟรังซิส ซาเวียร์ โรงเรียนพันธะศึกษา จัดการแข่งขัน กีฬา การแสดงบนเวที ออกร้านขายของและอาหาร เพื่อหาเงิน กิจกรรมนี้ประสบผลสำเร็จ ชื่องานคือ “บุญวาณิชย์เขต” เป็นงานปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2505 จากนั้น มาจัดในบริเวณโรงเรียน โยนออฟอาร์คเทคโนโลยี ได้เงิน 42,013.50 บาท (สี่หมื่น สองพันสิบสามบาทห้าสิบสตางค์) วันที่ 11 กันยายน 2511 จัดงานชุดรีวิวของโรงเรียนที่มีอยู่แล้ว ได้รับบริจาค 13,626 บาท (หนึ่งหมื่นสามพันหกร้อยยี่สิบหกบาท) และวันที่ 1, 2 พฤศจิกายน 2512 จัดที่โรงเรียนเซนต์ คาเบรียล ได้เงิน 50,363 บาท (ห้าหมื่นสามร้อยหกสิบ สามบาท)
ตามกำลังเงินที่สะสมได้ จึงเรียนคุณพ่อทราบและ ขอสร้างอาคาร โดยสร้างชั้นเดียวก่อน แต่ทำแปลนไว้ 3 ชั้น เตรียมรากฐานไว้พร้อมจะสร้างเมื่อมีเงิน แผนการ ของพระองค์ไม่ต้องการให้สร้างค้างไว้ ทรงโปรดให้มีผู้ บริจาคสร้างเสร็จครบ 3 ชั้นในปี พ.ศ. 2514 โดยชั้นล่าง เป็นร้านค้าเสื้อผ้าที่ได้รับบริจาค ได้รับการยกเว้นไม่ต้อง เสียภาษี เพราะรายได้มาช่วยเหลือคนจน ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2512 ชั้นที่ 2 เป็นห้องสอนวิชาชีพ ได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์ เย็บปักถักร้อย และชั้นที่ 3 เป็น ห้องประชุมของคณะสมาชิกฯ
ประธาน บ.ทิวา บุณยะวณิช ขอเงินจากองค์กร “Catholic Relief Sevice (CRS)” ได้เงินมา 90,000 บาท (เก้าหมื่นบาท) โครงการดำเนินไปได้ประมาณ 3 ปี นักเรียนวิชาชีพลดลงมาก จึงเลิกกิจการ เมื่อโครงการสอน วิชาชีพไม่ประสบผล สมาคมฯ จึงสนับสนุนทุนการ ศึกษาแก่นักเรียนยากจน เริ่มช่วยโดยไม่จำกัดจำนวน ปรากฏว่าได้ผลน้อย เพราะผู้ปกครองปล่อยภาระต่างๆ ให้ สมาคมฯ รับผิดชอบ สมาคมฯ จึงต้องปรับปรุงการให้ทุน บางส่วนและให้ผู้ปกครองช่วยสมทบ ทั้งนี้ เปิดช่องทาง ให้นักเรียนดีได้ทุนเพิ่ม ส่วนนักเรียนที่สติปัญญารอง ลงมาแต่มีความสามารถพิเศษ เช่น เก่งกีฬา เก่งเรียน คำสอน หรือกิจกรรมดีอื่นๆ ใช้เวลาว่างช่วยพ่อแม่ทำงาน ช่วยมิสซาและงานวัด หรือชักชวนครอบครัวสวดลูก ประคำก่อนนอน ฯลฯ จะได้รับทุนเพิ่ม
นอกเหนือจากการช่วยในหมู่บ้านและใกล้เคียงแล้ว ยังช่วยแบ่งสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่ลำไทร จ.ปราจีน ช่วย คณะสมาชิกฯ ที่ขาดแคลนในชนบท ช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมและภัยหนาวอีกด้วย ดังนั้น เงินที่ท่านใจบุญ บริจาคให้คณะสมาชิกฯ นั้น มีส่วนช่วยไปถึงมือผู้ยากไร้ ขัดสนยากจน และด้อยโอกาสอีกด้วย
โอกาสพิเศษนี้ คณะวินเซนฯ สามเสน ดำเนินการ ช่วยผู้ยากไร้มาครบ 55 ปี พ.ศ. 2008 นี้ จึงขอกราบขอบ พระคุณท่านผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ที่บริจาคเงินและให้ กำลังใจคณะสมาชิกฯ ที่ทำหน้าที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ ยากของผู้ยากไร้ให้ดำเนินต่อไปด้วยดี ขอพระทรง ประทานสวรรค์เป็นรางวัลแก่เขา ตามที่พระองค์สัญญา ไว้ และขอพระพรพระเป็นเจ้าได้ตอบแทนให้ท่าน และ ครอบครัวเป็นพันทวีคูณในกิจการงานของท่าน และขอ ให้ท่านพ้นภยันตรายทั้งปวง
รักในพระคริสตเจ้า
คณะวินเซนฯ สามเสน
24 กันยายน 2008
การให้ความช่วยเหลือ
โดย แอนโทนี ณ บ้านแพน
การให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เช่น เด็กเล็ก คนชรา ผู้พิการ คนป่วย หรือคนตกงานไม่มีรายได้ เป็น หน้าที่ชาววินเซนฯ เพราะว่างานหลักของวินเซนฯ คือ การช่วยเหลือ ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงมอบภาระนี้ให้เราเป็น เครื่องมือช่วยเหลือแทนพระองค์ แต่ยังมีคณะสมาชิก หลายคณะที่มีความหนักใจในการพิจารณา ตัดสินว่าจะ ช่วยเหลือ คนนั้นดี หรือไม่ช่วยเหลือคนนี้ดี กังวลกลัวว่า จะถูกหลอก จะเสียรู้ จะเสียหน้าแก่คนที่มาขอความช่วย เหลือ จึงกลายเป็นต้องทำงานเอง ตัดสินเอง ใช้หลักเกณฑ์ ตนเอง คิดเองตามประสามนุษย์คิด ลืมนึกถึงจิตตารมณ์ แห่งความรักความเมตตา ลืมไปว่าเราเป็นเครื่องมือแห่ง ความรักของพระองค์ เราต้องใช้ความรักเป็นเครื่องมือใน การทำงาน เราต้องนำความรักของพระองค์ไปให้ผู้ยากไร้ ส่วนการที่จะมาตัดสินว่า คนนั้นดี คนนี้ไม่ดี เป็นหน้าที่ ของพระองค์เอง ที่จะทำงานด้านนี้ได้ดีกว่าเรา เรื่องการ ถูกหลอกนั้น พระเยซูเจ้าเองก็ทรงยอมให้สาวก (ยูดาส) ของพระองค์เองหรอกอย่างเต็มใจ เพื่อแผนงานการไถ่กู้ มนุษยชาติของพระบิดา สำเร็จไป
ถ้าชาววินเซนฯ ไม่ยอมให้คนจนเข้ามาขอแล้ว พวกเขาจะมีโอกาสรู้จักความรัก ความเมตตา และการให้ อภัยของพระองค์ได้อย่างไร เราไม่ยอมให้คนมาหลอก เพราะว่าเรากลัวเสียเปรียบ คิดอย่างมนุษย์คิด เราไม่คิด อย่างพระเจ้าคิด อย่าลืมว่า ถึงแม้เรื่องเล่าอ้าง เหตุผลต่างๆ ของเขาเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง แต่เรื่องความยากจน ของเขานั้นเป็นเรื่องจริงมิใช่หรือ เป้าหมายการทำงาน ของเราต้องยึดความจริงเป็นเกณฑ์ ต้องมองดูความยาก จน มิใช่เอาเรื่องจับผิดการโกหกมาเป็นหลักสำคัญ การลง มติในที่ประชุมของคณะฯ ไม่ใช่เป็นการตัดสินว่าจะช่วย หรือไม่ช่วย แต่เป็นการลงมติพิจารณาความจำเป็นว่า จะช่วยใครก่อน ช่วยใครทีหลัง ใครให้มาก ใครให้น้อย ให้ตามความเดือดร้อนต่างหาก ความยากจน ความร่ำรวย ไม่มีการจัดระดับ จึงไม่สามารถบอกได้ว่า คนนี้จน คนนี้ไม่จน ฐานะความจนของคนก็ไม่คงที่ไม่แน่นอน สามารถจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ดังนั้น การกำหนดการ ช่วยเหลือไว้เป็นระยะยาวนาน จึงเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง จำเป็น ต้องไปเยี่ยมถึงที่อยู่อาศัยทุกครั้ง ก่อนที่จะกำหนดการ ช่วยเหลือ
จำไว้ว่า ความคิด เหตุผล จะสวยหรู งามเลิศ ดีเยี่ยม มากมายเพียงใดขนาดไหน ความคิดเหตุผลเหล่านั้น ก็นำ เอามาใช้ในการทำงานของวินเซนฯ ไม่ได้ ถ้าไม่ผ่านการ รับรองจากมติที่ประชุม อำนาจการดำเนินงานของคณะฯ มาจากมติที่ประชุมเท่านั้น ดังนั้น การไม่มีการประชุม ก็คือการไม่มีคณะฯ นั่นเอง
การให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า จะต้องมีการตกลง กันว่า จะช่วยครั้งต่อไปต้องยินยอมให้ไปสำรวจเยี่ยมที่อยู่ อาศัยก่อน เพื่อจะกำหนดการช่วยเหลือได้ถูกต้อง เราจะ ไม่มีการช่วยเหลือเฉพาะหน้าในครั้งต่อไปอีก
ถ้าเราภาวนาทุกครั้งก่อนทำงาน พระองค์จะอยู่กับ เราทุกครั้ง หากมีการถูกหลอกเกิดขึ้น ต้องเชื่อว่าเป็น พระประสงค์ตามแผนการของพระองค์ นั่นเอง
เก็บข่าวในห้องประชุม
โดย บ.ชัยวัฒน์
ด้วยช่วงนี้ เข้าสู่ฤดูฝนแล้วนั้น ปรากฏว่า อาการของ คนในประเทศยังไม่หายร้อน มีสภาวะหนาวๆ ร้อนๆ อยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหตุการณ์อันใด แต่ที่แน่ๆ คือ การ ประชุมคณะมนตรีอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ มีเรื่องบอก กล่าวแก่พี่น้องชาววินเซนฯ และชาวคาทอลิกหลายๆ เรื่อง ที่พอจะแยกได้ต่างๆ พอจะบอกกล่าวได้ว่าการประชุม แต่ละครั้งจะมีเรื่องบอกกล่าว ชี้แนะหรือเผยแพร่ เพื่อบอก ต่อๆ กัน ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับคณะกลุ่มสมาชิกของวัด ตนเองอย่างไร เช่น ซ.น้อมจิตร แห่งวัดอัสสัมชัญเล่าว่า บางครั้งการที่พวกเราทำการแจกจ่ายทรัพย์สิน หรือสิ่ง ของเล็กน้อยๆ แก่ผู้มาขอความช่วยเหลือ บางรายต้องการ แต่เงินสดเท่านั้น อย่างอื่นข้าพเจ้ามิอาจรับได้ เมื่อมีเจตนา อันแน่วแน่ที่จะไม่รับเงินเชื่อหรือสิ่งของ ทางคณะกลุ่ม ของ ซ.น้อมจิตรประชุมกันว่า รายนี้ รายนั้นไม่สมควรให้ ความช่วยเหลือ จึงปฏิเสธด้วยความละมุนละม่อม สิ่งที่ ได้รับตอบกลับมาเป็นเสียงด่าทอ ซึ่งบางครั้งอาจจะรับ ไม่ได้ แต่ก็ทนเอาไว้ สุดท้ายต้องตะโกนเรียกหาตำรวจ ซึ่ง ทางที่ดีคราวหน้า ซ.น้อมจิตร ต้องหาตำรวจมาช่วยการ ดูแลในการทำกิจกรรม หรือหาสมาชิกที่เป็นตำรวจ มาเป็นด้วย เด้อ................
ส่วนสมาชิก บ.พงษ์เทพบอกกล่าวเป็นวิทยาทานว่า กลุ่มคณะวินเซนฯ ตรอกจันทน์ มีสมาชิกนายหนึ่งมาขอ ความช่วยเหลือ ไม่ขอเพียงอย่างเดียว แถมลักโทรศัพท์ มือถือของลูกชายไปด้วย แม้มันน่าเจ็บใจ ทำดีแล้วยังถูก ขโมยอีก แต่นี้เป็นแผนการของพระเจ้าว่าท่าน บ.พงษ์เทพ เข้มแข็งหรือไม่เพียงใด แต่เหตุการณ์แบบนี้เรื่องเล็กน้อย ภาษาเด็กแว้นเรียกว่า จิ๊บๆ หรือชิวๆ เหตุการณ์ไม่ใช่ เช่นนั้น เมื่อผู้มาขอความช่วยเหลือรายที่ขโมยสิ่งของไป มาสารภาพและยินดีชดใช้โดยขอผ่อนชำระ เรื่องก็น่าจะ จบด้วยแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ไม่ใช่ลูกค้ารายนี้ (ขอใช้คำว่า ลูกค้ารู้สึกว่าดูดีนะ) ยินดีผ่อนชำระตามที่ตกลงไว้ แต่เมื่อ ขอได้ชำระเงินเสร็จ กลับขอความช่วยเหลือใหม่ใน จำนวนที่มากกว่าเดิม อ้างเหตุผลอื่นมาประกอบ แบบนี้ เขาเรียกว่า อัฐยายกินขนมยายนี้หน่า ลงทุนน้อย แต่ก็กำไร ในภายหลัง ไม่ทราบว่า บ.พงษ์เทพจะใจอ่อนหรือไม่
ส่วนสมาชิก ซ.จันทราวัดกาลหว่าร์ ผู้ขยันยิ่ง ซึ่งท่าน ได้เป็นส.ว.ไปแล้ว (อย่าตกใจไม่ใช่สมาชิกวุฒิสภา แต่เป็น ผู้สูงวัย) ได้บำเพ็ญทุกอย่างไม่ว่าจัดสำรับอาหารถวาย เอ้ย ไม่ใช่ เตรียมอาหารผู้เข้าร่วมประชุมสมาชิกคณะมนตรี ประเทศ ไม่ว่าอาหารเช้าหรืออาหารเที่ยง ข้าวปลา อาหาร ว่าง แต่ไม่มีกับแกล้ม เพราะไม่มีแอลกอฮอล์นะ หลังจาก เสร็จก็เตรียม สำหรับการประชุมคณะมนตรีอัครสังฆ มณฑล กรุงเทพฯ อีก น่านับถือโดยแท้
ส่วนสมาชิกอื่นๆ ก็ขยันขันแข็ง ซึ่งองค์กรนี้ ก็จะไม่ อายใครต่อไป เพราะเราจะมีเว็บไซด์ของเราเอง ขณะนี้อยู่ ในการวางแผนและรวบรวมจัดทำ เพื่อเผยแพร่ออกไปให้ มวลหมู่สมาชิกและไม่ใช่สมาชิก ไม่ว่าเป็นชาวคาทอลิก หรือไม่ ได้อ่านกันเร็วๆ นี้ โดยการอนุเคราะห์ให้ความ ช่วยเหลือในการจัดทำนี้จาก บ.ตรีนิติ วัดแม่พระกุหลาบ ทิพย์ หัวเรือใหญ่
ส่วนสมาชิกอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงก็อย่าน้อยใจ หาก ต้องการเผยแพร่ หรือบอกข่าวต่อๆ กันไป เพื่อเป็น วิทยาทาน ก็แจ้งหรือข่าวที่ต้องการนำเสนอได้แก่ฝ่าย สื่อสาร-สัมพันธ์ ผ่านทางประธาน บ.ประสพจิต หรือ สมาชิกก็ได้นะขอรับ สิบอกไห่...................................
หลังจากที่ผ่านมา คณะชาววินเซนฯ ได้ร่วมทำ กิจกรรมหลายอย่าง โดยเฉพาะการประชุมเพื่อฟื้นฟูจิตใจ ที่วัดบางสะแกฝั่งธนฯ มีชาวคณะวินเซนฯ ไปมากกว่าที่ คาดไว้ และที่น่าปลาบปลื้มมากคือ คุณพ่อศุภกิจ เลิศจิตร เลขา และผู้ช่วยวัดบางสะแก ให้ความสนับสนุนเป็นอย่าง ดีมาก โดยเฉพาะคุณพ่อศุภกิจฯ นอกจากเอื้อเฟื้อสถานที่ และยังอนุเคราะห์เป็นผู้บรรยายให้พวกเราชาววินเซนฯ ซาบซึ้ง และอีกผู้หนึ่งที่จะกล่าวไม่อาจตกหล่น ที่จะไม่ พูดถึงคือผู้ช่วยวัดบางสะแก มีหน้าที่มากหลายอย่าง เช่น เล่นดนตรีระหว่างมิสซา เมื่อมิสซาเลิก วิ่งๆๆ ไปจัดห้อง ประชุม จัดอุปกรณ์การบรรยายให้แก่พวกเราที่จะเข้า ประชุม หลังจากนั้น ก็วิ่งๆๆ ไปที่โบสถ์เพื่อเล่นดนตรี เพราะมีมิสซาผู้สูงอายุรอบต่อมา และเมื่อพวกเราชาว วินเซนฯ ฟื้นฟูรอบเช้า เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ผู้ช่วยฯ เจ้าเก่า ก็มาช่วยบริการอาหารพวกเราอีก น่ายกย่องไว้ ณ ที่นี้
ส่วนพวกเราที่เข้ามาฟื้นฟูได้รับฟังในช่วงเช้า ต่าง กระปี้กระเปร่ามาก หลังจากที่ช่วงบ่ายมีบางคนที่เข้าใจใน การบรรยายเป็นอย่างดี บางท่านพยักหน้ารับตลอดเวลา ทั้งๆ ที่คุณพ่อศุภกิจฯ หยุดพูดระหว่างบรรยาย พวกท่านก็ ยังพยักหน้ารับว่าเข้าใจโดยตลอด ที่เข้าใจโดยตลอด ที่แท้ ก็แอบงีบหลับนิดหน่อยเท่านั้นเอง แหมนึกว่า การ พยักหน้า ว่า เข้าใจ
ส่วนผู้บรรยายอีกท่านหนึ่งมิใช่ใคร คือคุณพ่อ อนุศักดิ์ กิจบำรุง จิตตาธิการวินเซนฯ กรุงเทพฯ ของเรา นั้นเอง ซึ่งท่านเป็นผู้หนึ่งที่ต้องกล่าวถึง คุณพ่ออนุศักดิ์ฯ ได้บรรยายให้เราฟัง ทำให้เราเข้าใจอีกมากและเป็นการ ให้อาหารทางจิตใจแก่เรา พร้อมที่จะมีกำลังในการทำงาน เพื่อวินเซนฯ มากขึ้น ไม่ให้ท้อถอย ต่อสู้ต่อไป
คณะมนตรีกรุงเทพฯ
+ คุณพ่ออนุศักดิ์ฯ จิตตาธิการสมาคมฯ แจ้งว่า คุณพ่อยินดีให้การสนับสนุน และติดต่อประสานงานกับ คุณพ่อเจ้าวัดต่างๆ ของอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ ที่ยัง ไม่มีคณะวินเซนฯ เพื่อขยายงานไปจัดตั้งคณะวินเซนฯ ตามวัดต่างๆ
+ คณะมนตรีแห่งประเทศ รณรงค์รับบริจาคเงิน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุไซโคลนนากิส ที่ประเทศพม่า ขณะนี้คณะมนตรีแห่งประเทศได้ส่งเงิน 30,000 บาท ไป ยังคณะปรินายก ประเทศฝรั่งเศสแล้ว
+ คณะมนตรีอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ ได้จัด เข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจสมาชิกวินเซนฯ วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2008 ที่วัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด บางสะแก คุณพ่ออนุศักดิ์ กิจบำรุง จิตตาธิการสมาคมฯ และคุณพ่อ ศุภกิจ เลิศจิตรเลขา เจ้าอาวาสวัดแม่พระประจักษ์เมือง ลูร์ด เป็นผู้บรรยาย มีสมาชิกวินเซนฯ มาร่วมฟื้นฟูจิตใจ จำนวนประมาณ 70 คน
+ ฉลองนักบุญวินเซนฯ วันที่ 20 กันยายน 2008 ณ วัดแม่พระมหาการุณย์ ปากเกร็ด มิสซา 10.00 น.
+ ทุนการศึกษาประจำปี 2008 คณะมนตรีฯ จะ มอบทุนการศึกษาให้คณะฯ ละ 6,000 บาท
+ ซ.นวรัตน์ โกสุมภ์ วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ บางบัวทอง รายงานผู้แทนยุววินเซนฯ ไทย จำนวน 4 คน ไปร่วมประชุม FAMVIN Celebration ที่เมือง Bathurst และงาน World Youth Day 2008 ที่ Sydney ระหว่างวันที่ 9-20 กรกฎาคม 2008 สรุปสาระดังนี้ ยุววินเซนฯ จากไทย ซ.นวรัตน์ได้รับเกียรติให้เป็นผู้จุดเทียนเปิดงาน FAM-VIN Celebration และได้เดินทางไปเยี่ยมสำนักงานและ ชมกิจกรรมต่างๆ ของงานวินเซนฯ ในออสเตรเลีย
ฝ่ายงานกิจกรรม
+ บ.รณรงค์ เสนอจัดกิจกรรมไปเยี่ยมและเลี้ยง อาหารเที่ยงที่ศูนย์สงเคราะห์เด็ก วัดแม่พระมหาการุณย์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีเด็ก 90 คน งบประมาณ 3,000 บาท จัดกิจกรรมเมื่อไปเยี่ยมในวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2551 ให้ กับเด็กๆ ที่ศูนย์ฯ ได้สนุกสนาน เริ่มกิจกรรมเวลา 11.00 น. มติที่ประชุมเห็นด้วย
+ ซ.แสงเดือน รายงาน ได้จัดกิจกรรมพาสมาชิก ไปเยี่ยมและเลี้ยงอาหารผู้สูงอายุที่ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีคณะวินเซนฯ 9 คณะ จำนวน 26 คน ไปร่วม กิจกรรมบำรุงบ้านผู้สูงอายุ เซนต์หลุยส์ ลำไทร
คณะอัครเทวดาราฟาแอล ปากน้ำ 3,000.00
คณะพระกุมารเยซู (ก.ม. 8) 2,500.00
คณะน.มีคาแอล วัดเซนต์หลุยส์ 5,000.00
คณะแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด บางสะแก 200.00
ฝ่ายขยายงาน
+ บ.พอ.ปราโมทย์ รายงาน อัครสังฆมณฑล กรุง เทพฯ ว่า พื้นที่วัดเขต 1 มีคณะสมาชิกวินเซนฯ 2 แห่ง คือ วัดเซนต์แอนโทนี (แปดริ้ว) และวัดแม่พระประจักษ์เมือง ลูร์ด หัวตะเข้ กำลังจะขยายงานไปที่วัดเซนต์ร็อค ท่าไข่ โดย ซ.แสงเดือนและซ.น้อมจิตรได้ไปเยี่ยมพบปะกับ กลุ่มผู้สนใจงานวินเซนฯ และอยู่ในขั้นทดลอง
+ บ.วีรชัย เตรียมขยายงานที่วัดแม่พระมหา การุณย์ จ.นนทบุรี ได้ฝากเอกสารไว้ให้ดูเป็นแนวทาง
+ ซ.แสงเดือน ติดต่อจะไปขยายงานและจัดตั้ง คณะวินเซนฯ ที่วัดมารีย์สวรรค์ ดอนเมือง
ฝ่ายสื่อสารสัมพันธ์
+ บ.ประสพจิต เชิญชวนให้คณะสมาชิกฯ ส่งข่าว มาลงใน Web Blog เพื่อประชาสัมพันธ์งานของวินเซนฯ ที่ http://www.ssvpthai.blogspot.com/
ฉลองศาสนนามเปโตร คุณพ่อเจ้าวัดกัลหว่าร์
คณะสมาชิกวินเซนฯ ตรอกจันทน์ กรุงเทพฯ (น.ยอแซฟ) บ.พงษ์เทพ ประธานคณะฯ (แถวนั่งจากซ้าย คนที่ 1)
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2551 คณะสมาชิกฯ หัวตะเข้ มอบ เกียรติบัตร ณ วัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด ปัจจุบันมีสมาชิก กิตติมศักดิ์จำนวน 34 ท่าน
ประมวลภาพกิจกรรม คณะสมาชิกวินเซนฯ ร่วมกิจกรรม “ฟื้นฟูจิตใจวินเซน” ณ วัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด (บางสะแก) เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2008
ประมวลภาพ กิจกรรมไปเยี่ยมและเลี้ยงอาหารผู้สูงอายุที่ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีคณะวินเซนฯ 9 คณะ จำนวน 26 คน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2008
วัตถุประสงค์
1. เพื่อประชาสัมพันธ์ กิจการและข่าวสารวินเซน เดอ ปอล ของคณะ มนตรีอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ ให้กับคณะสมาชิกและสัตบุรุษตามวัด ต่างๆ ในอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ
2. เพื่อเผยแผ่จิตตารมณ์ของสมาคมฯ “ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อย ที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ.25:40) ให้เป็นที่รู้จักแก่ สัตบุรุษและบุคคลทั่วไปในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
เจ้าของ คณะมนตรีอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ
ที่ปรึกษา
แสงเดือน โพธิ์ไทร
ประธาน คณะมนตรีอัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ
ฝ่ายสื่อสาร-สัมพันธ์ และเผยแพร่
บ.ประสพจิต
บ.วีระพันธ์
บ.นรินทร์
บ.ชัยวัฒน์
บ.รณรงค์
บ.ตรีนิติ
---